วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บทที่ 4 ICT

ICT

3. ICT
3.1 ความหมายของ ICT
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and communication Technology : ICT)หมายถึง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข่าวสาร ข้อมูลและการสื่อสาร นับตั้งแต่การสร้าง การนำมาวิเคราะห์หรือประมวลผลการรับและส่งข้อมูล การจัดเก็บ และการนำไปใช้งานใหม่
3.2 ประเภทของ ICT
1. เทคโนโลยีที่ใช้ในการเก็บข้อมูล  เช่น ดาวเทียมถ่ายภาพทางอากาศ กล้องดิจิตอล เป็นต้น
2. เทคโนโลยีที่ใช้ในการบันทึกข้อมูล  เช่น เทปแม่เหล็ก จานแม่เหล็ก  จานแสง และ memory card
3. เทคโนโลยีที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูล ได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ประกอบด้วย ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
4. เทคโนโลยีที่ใช้ในการแสดงผลข้อมูล เช่น เครื่องพิมพ์ จอภาพ พล็อตเตอร์ ฯลฯ
5. เทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดทำสำเนาเอกสา เช่น เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องถ่ายไมโครฟิล์ม
6. เทคโนโลยีสำหรับถ่ายทอดหรือสื่อสาร ข้อมูลได้แก่ ระบบโทรคมนาคมต่าง ๆ เช่น  โทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง และโทรเลข

องค์ประกอบของระบบสารสนเทศ 
องค์ประกอบของระบบสารสนเทศซึ่งเป็นระบบสนับสนุนการบริหารงาน การจัดการและปฏิบัติการของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นระดับบุคคล ระดับกลุ่มหรือระดับองค์กรไม่ใช่มีเพียงเครื่องคอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่ยังมีองค์ประกอบอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จของระบบอีกรวมเป็น 5 องค์ประกอบ ซึ่งจะขาดองค์ประกอบใดไม่ได้ คือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล บุคลากร และขั้นตอนการปฏิบัติงาน

1. ฮาร์ดแวร์
ฮาร์ดแวร์เป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบสารสนเทศ หมายถึง เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์รอบข้าง เช่น เครื่องพิมพ์ เครื่องกราดตรวจ รวมทั้งอุปกรณ์สื่อสารสำหรับเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เข้าเป็นเครือข่าย
2. ซอฟต์แวร์ 
ซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญประการที่สอง ซึ่งก็คือลำดับขั้นตอนของชุดคำสั่งที่สั่งงานให้ฮาร์ดแวร์ทำงาน เพื่อประมวลผลข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์ตามความต้องการ
3. ข้อมูล
ข้อมูล เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอีกประการหนึ่งของระบบสารสนเทศ เป็นตัวชี้ความสำเร็จหรือความล้มเหลวของระบบได้ เนื่องจากต้องมีการเก็บข้อมูลจากแหล่งกำเนิด ข้อมูลจะต้องมีความถูกต้องและทันสมัย มีการกลั่นกรองและตรวจสอบแล้วเท่านั้นจึงจะมีประโยชน์
4. บุคลากร
บุคลากรในระดับผู้ใช้ ผู้บริหาร ผู้พัฒนาระบบ นักวิเคราะห์ระบบ และนักเขียนโปรแกรม เป็นองค์ประกอบสำคัญในความสำเร็จของระบบสารสนเทศ บุคลากรมีความรู้ ความสามารถทางคอมพิวเตอร์มากเท่าใด โอกาสที่จะใช้งานระบบสารสนเทศและระบบคอมพิวเตอร์ได้เต็มศักยภาพและคุ้มค่ายิ่งมากขึ้นเท่านั้น
5. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
ขั้นตอนการปฏิบัติงานที่ชัดเจนของผู้ใช้หรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องก็เป็นเรื่องสำคัญอีกประการหนึ่ง เมื่อได้พัฒนาระบบงานแล้วจำเป็นต้องปฏิบัติงานตามลำดับขั้นตอน ในขณะใช้งานก็จำเป็นต้องคำนึงถึงลำดับขั้นตอนการปฏิบัติของคนและความสัมพันธ์กับเครื่อง ทั้งในกรณีปกติและกรณีฉุกเฉิน

3.3 การนำ ICT ไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน
การใช้ไอซีทีในการเรียนการสอน
การเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี (Learning about technology)
เป็นการเรียนรู้ในเรื่องของเทคโนโลยี เช่น เรียนรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานของคอมพิวเตอร์ เรียนรู้ว่าคอมพิวเตอร์ใช้เพื่อการประมวลผล ค้นคืนสารสนเทศได้อย่างไร เทคโนโลยีการสื่อสารมีรูปแบบใดบ้าง ฯลฯ
1. การเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี (Learning by technology)
เป็นการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเพื่อการเรียนรู้ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อประมวลผล การใช้ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ในการสร้างบทเรียน การใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการค้นคว้า การเรียนการสอนในลักษณะอีเลิร์นนิ่ง และการทัศนศึกษาเสมือนด้วยแหล่งการเรียนรู้เสมือนจากเว็บไซต์ต่างๆ เป็นต้น
2. การเรียนรู้ไปกับเทคโนโลยี (Learning with technology)
เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยี ได้แก่ การเรียนรู้ขณะนี้เทคโนโลยีมีความก้าวไกลไปในลักษณะและในรูปแบบใดบ้างทั้งด้านวัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ
ยกตัวอย่าง เช่น
1. E-Learning บทเรียนออนไลน์
หมายถึง รูปแบบของเนื้อหาสาระที่สร้างเป็นบทเรียนออนไลน์สำเร็จรูป ที่อาจใช้ซีดีรอมช เป็นสื่อกลางในการส่งผ่าน หรือใช้การส่งผ่านอินเทอร์เน็ต (Internet) หรือเครือข่ายภายใน ทั้งนี้อาจจะอยู่ในรูปแบบคอมพิวเตอร์ช่วยการฝึกอบรม (Computer Based Training: CBT) และการใช้เว็บเพื่อการฝึกอบรม (Web Based Training: WBT) หรือการเรียนการสอนทางไกล (Distance Learning) ผ่านดาวเทียมก็ได้

2. CAI คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction : CAI) เป็นกระบวนการเรียนการสอน โดยใช้สื่อคอมพิวเตอร์ ในการนำเสนอเนื้อหาเรื่องราวต่างๆ มีลักษณะเป็นการเรียนโดยตรง และเป็นการเรียนแบบมีปฏิสัมพันธ์ (Interactive) คือสามารถโต้ตอบระหว่างผู้เรียนกับคอมพิวเตอร์ได้
CAI ที่มีข้อได้เปรียบสื่ออื่น ๆ สามารถแสดงผลได้หลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นภาพเคลื่อนไหว เสียงประกอบ และการปฏิสัมพันธ์ (Interactive) บวกกับความสามารถในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้น ๆ ทำให้เป็นสื่อที่ตอบสนองการเรียนการสอน ในรูปแบบเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง (Child Center) ได้อย่างดียิ่งเปิดโอกาสให้นักเรียนได้สามารถคิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น

3. WEB เว็บไซต์
หมายถึง แหล่งความรู้หรือข้อมูลข่าวสารที่ถูกเก็บไว้บนระบบ เน็ตเวิร์ก (Network) ออนไลน์ (Online) ที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ต (Internet) การใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อการศึกษา ปัจจุบันมีเว็บที่บริการเรียนออนไลน์มากมายหลากหลายวิชา มีทั้งแบบข้อความเพื่ออ่าน ภาพประกอบ เสียงบรรยาย หรือวีดีโอสอนก็มี เช่น การสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ต่างๆเพื่อประกอบในการเรียนการสอน และสืบค้นเนื้อหามาใช้ในการทำรายงาน เป็นต้น

4. E-Book หนังสืออิเล็กทรอนิกส์
หมายถึง หนังสือที่สร้างขึ้นด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์มีลักษณะเป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์        โดยปกติมักจะเป็นแฟ้มข้อมูลที่สามารถอ่านเอกสารผ่านทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งในระบบออฟไลน์และออนไลน์ โดยที่เราสามารถเรียนรู้ได้สะดวกขึ้นเพราะไม่ต้องพกหนังสือหลายๆเล่มเพียงแค่มีคอมพิวเตอร์แบบพกพาติดตัว อย่างtablet ก็สามารถพกหนังสือติดตัวได้ทีละหลายๆเล่ม


กระบวนการนำ ICT ไปใช้ในห้องเรียน
1. การใช้คอมพิวเตอร์
            การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในการเรียนการสอน เหมาะสำหรับกลุ่มผู้เรียนทุกเพศทุกวัยที่มีความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์ โดยในคอมพิวเตอร์มีโปรแกรมต่างๆมากมายที่เหมาะสำหรับนำมาใช้ในการเรียนการสอน เช่น
โปรแกรม Microsoft Office

            แต่ที่นิยมใช้กันส่วนมากจะมีอยู่ 3 โปรแกรมคือ
1. ไมโครซอฟท์ เวิร์ด
ไมโครซอฟท์ เวิร์ด เป็นโปรแกรมที่นิยมในการประมวลผลคำ มีความสามารถในการจัดรูปแบบตัวอักษร ย่อหน้า ใส่รูปภาพ จดหมายเวียน และอื่นๆ อีกมากมาย
ตัวอย่าง
          การทำรายงานโดยใช้โปรแกรมไมโครซอฟเวิร์ด เป็นที่นิยมกันอยู่ทั่วไปเพราะสามารถแทรกภาพ แทรกตาราง แผนภูมิ และเพิ่มลูกเล่นต่างๆได้มากมาย ทำให้งานมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วย


2. ไมโครซอฟท์ เอ็กเซล
ไมโครซอฟท์ เอ็กเซล เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการจัดทำตารางงาน มีความสามารถในการคำนวณสูตรต่างๆ พร้อมทั้งฟังก์ชันที่ช่วยในการคำนวณทางคณิตศาสตร์อีกด้วย
ตัวอย่าง
            3. ไมโครซอฟท์ พาวเวอร์พอยต์
ไมโครซอฟท์ พาวเวอร์พอยต์ เป็นโปรแกรมนำเสนอผลงาน สามารถนำเสนอผลงานในแบบต่างๆ รวมถึงมีแม่แบบที่ช่วยผู้ใช้ใช้งานอย่างงายดาย และมีแอฟเฟ็คแบบต่างๆ ช่วยตกแต่งให้งานนำเสนอมีความสวยงาม
ตัวอย่าง
โปรมแกรมไมโครซอฟท์ พาวเวอร์พอยต์เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการนำเสนองาน มีลูกเล่นต่างๆมากมาย สามารถใส่ตัวอักษร แทรกภาพ แทรกเสียง แทรกคลิปวีดีโอ และแทรกลิงค์ไปยังUSERของเว็บต่างๆได้ด้วย

2. การใช้อินเตอร์เน็ต
            การใช้อินเตอร์เน็ตในการเรียนการสอนนั้น สามารถใช้ได้กับกลุ่มผู้เรียนทุกเพศทุกวัยเช่นกัน แต่จำเป็นต้องมีคอมพิวเตอร์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ และผู้เรียนต้องมีความสามารถและมีความรู้เบื้องต้นในการใช้คอมพิวเตอร์ด้วย เพราะอินเตอร์เน็ตเป็นเครือข่ายที่กว้างขวาง สามารถเข้าได้ถึงจากทั่วทุกมุมโลก เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บริการสื่อสารข้อมูล เช่น การบันทึกเข้าระยะไกลการถ่ายโอนแฟ้ม อี-เมล์ เป็นต้น

ตัวอย่าง
การเรียนผ่านอินเตอร์เน็ต
1. การสืบค้นข้อมูลการทำรายงาน หรือหาความรู้โดยใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ต
2. การส่งจดหมายออนไลน์ หรือส่งเมล์ ส่งไฟล์งาน หรือการบ้านระหว่างผู้เรียนและผู้สอน  โดยจะต้องมีการสมัคสมาชิก Hotmail หรือ Gmail ก็ได้เพื่อใช้เป็นตัวกลางในการส่งงาน

3. E – Learning บทเรียนออนไลน์  เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้วยซีดีรอม, การเรียนการสอนบนเว็บ                     (Web-Based Learning), การเรียนออนไลน์ (On-line Learning) การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ การเรียนด้วยวีดีโอผ่านออนไลน์ เป็นต้น
E – Learning บทเรียนออนไลน์ 
ผู้เรียนสามารถเข้าเรียนออนไลน์ได้ที่เว็บไซต์ ดังนี้
http://www.dekgeng.com/thai/reading.html
http://www.bkkelearning.com/bkk/category.jsp
http://e-learning.tu.ac.th/demoLMS/demoLMS.html
http://www.tsi-thailand.org/Financeforyouth_2/e-Learning-course/tsi_y01/e-Learning-1.html

โดยขั้นตอนการเข้าเรียนออนไลน์ ผู้เรียนสามารถเข้าได้ทุกที่ทุกเวลา จากที่ไหนก็ได้แต่จำเป็นต้องมีการสมัครเป็นสมาชิกในเว็บไซต์นั้นๆก่อนเข้าเรียน

CAI คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นการเรียนการสอนแบบรายบุคคล โดยผู้เรียนสามารถเข้าเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนได้โดยไม่จำกัดเวลา ไม่จำเป็นต้องรอครูผู้สอน และหากไม่เข้าใจก็สามารถเข้าดูบทเรียนซ้ำได้ บทเรียนใดเข้าใจแล้วก็สามารถผ่านไปยังบทต่อไปได้เลย
สำหรับผู้สอนที่สร้างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเสร็จอาจนำไปลงตามเว็บไซต์เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าเรียนได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ในขั้นตอนการสร้างควรสร้างให้เหมาะสมกับผู้เรียน โดยคำนึงถึงวัย และความรู้เดิมของผู้เรียนเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนวิชาสังคมศึกษา เรื่อง สิ่งแวดล้อมในชุมชน





E – BOOK หนังสืออิเล็กทรอนิกส์
E – Book ก็เปรียบเสมือนหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ที่สามารถเข้าใช้งานได้โดยผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่สามารถอ่าน E –Book ได้อย่างเช่น Tablet เป็นต้น และที่สำคัญยังสามารถดาวน์โหลดมาเก็บไว้ที่คอมพิวเตอร์ของเราได้ด้วย เพื่อเปิดใช้งานแบบออฟไลน์ได้

ตัวอย่าง
เว็บไซต์ที่สามารถดาวน์โหลด E-Book มาใช้ในการเรียนการสอนได้ http://www.rta.mi.th/16120u/webpage/manualE-Books.html
สำหรับการใช้งาน E – Book นั้นสามารถทำได้ดังนี้
1. การเปิดโปรแกรมหนังสือ ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ DWB.exe รูปไอคอนสีน้ำเงิน หนังสือก็จะดีดขึ้นมาเอง
2. การเปิดหน้าถัดไป  นำเมาส์ไปวางบริเวณหน้าหนังสือด้านขวา แล้วทำการคลิกเมาส์(เมาส์ซ้าย) 1 ครั้ง จะเป็นการพลิกเปิด หนังสือไปหน้าถัดไป
3. การเปิดหน้าที่ผ่านมา  นำเมาส์ไปวางบริเวณหน้าหนังสือด้านซ้าย แล้วทำการคลิกเมาส์(เมาส์ซ้าย) 1 ครั้งจะเป็นการพลิกเปิดหนังสือไปหน้าที่ผ่านมา
4.การเปิดจากหน้าเนื้อหา (สารบัญ)  เปิด E-Book ไปหน้าเนื้อหา (สารบัญ) จากนั้นทำการคลิกเมาส์(เมาส์ซ้าย) 1 ครั้ง ณ ตำแหน่งหัวข้อเนื้อหา ที่ผู้ใช้ต้องการ e-Book จะทำการพลิกหน้า ไปยังเนื้อหานั้นๆโดยทันที
5.การเชื่อมโยงไปเว็บไซต์อื่น เมื่อเลื่อนเม้าส์ไปที่ข้อความลิงค์จะนูนขึ้นเป็นปุ่มขึ้นมาให้คลิกปุ่มที่มีการเชื่อมโยงได้เลย
6. การปิดหนังสือ คลิกปุ่มลิ้งค์ close ด้านล่างขวาของหน้าหนังสือทุกหน้าหรือ นำเม้าส์ไปวางที่บนหน้าหนังสือที่ว่าง ๆแล้วคลิกขวา ในกล่องข้อความเลือก exit  ก็จะออกจากโปรแกรมทันที


สรุป
ICT หรือ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and communication Technology : ICT)หมายถึง เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข่าวสาร ข้อมูลและการสื่อสาร ระบบสารสนเทศประกอบไปด้วยฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์บุคลากรข้อมูล และระบบปฏิบัติการ ในการนำICTไปใช้ในการเรียนการสอนสามารถแบ่งได้ แบบด้วยกันคือ เรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี และเรียนรู้ไปกับเทคโนโลยี โดยสามารถนำไปประยุกต์ในการเรียนการสอนได้ดังนี้
1. E-Learning บทเรียนออนไลน์ เรียนรู้โดยผ่านบทเรียนออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว สามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
2. CAI คอมพิวเตอร์ช่วยสอน  การเรียนรู้โดยคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เป็นการที่ทำให้ทำให้ได้สามารถคิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น เพราะจะมีFeedbackกลับมาให้เราได้รู้ผลการเรียนของเราด้วย
3. WEB เว็บไซต์ เป็นการเรียนรู้ที่ใช้เว็บไซต์เป็นหลัก ซึ่งมีมากมายหลากหลายวิชา มีทั้งแบบข้อความเพื่ออ่าน ภาพประกอบ เสียงบรรยาย หรือวีดีโอสอนทำให้เราเรียนรู้ได้เข้าใจง่ายมากขึ้น
4. E-Book หนังสืออิเล็กทรอนิกส์  เราสามารถอ่านหนังสือได้โดยที่เราสามารถเรียนรู้ได้สะดวกขึ้นเพราะไม่ต้องพกหนังสือหลายๆเล่มเพียงแค่มีคอมพิวเตอร์แบบพกพาติดตัว อย่างtablet ก็สามารถพกหนังสือติดตัวได้ทีละหลายๆเล่ม

อ้างอิง

ชม ภูมิภาค. 2548.  หนังสือไอซีทีเพื่อการศึกษา.  พิมพ์ครั้งที่ 2. อรัณการพิมพ์:  กรุงเทพมหานคร.

Mickey-mook. ICT คืออะไร.  (ออนไลน์).  เข้าถึงได้จาก:  http://mickey-mook.exteen.com/20090731/ict-1.  (วันที่ค้นข้อมูล 12 ก.ค. 2555)

ณรงค์พร เหล่าศรีสิน .  EduTeach – ไอเดียสร้างสรรค์ในการใช้ไอทีกับกาศึกษา.  (ออนไลน์).  เข้าถึงได้จาก:  http://bodin.wordpress.com/.  (วันที่ค้นข้อมูล14 ก.ค. 2555).

นายประสาน   กัลยาณมิตร.  บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน.  (ออนไลน์).  เข้าถึงได้จาก:  http://www.gotoknow.org/blogs/posts/344845.  (วันที่ค้นข้อมูล14 ก.ค. 2555).

พ.ต.อดุลย์ ปานสกุล.  คู่มือการใช้งาน E – Book.  (ออนไลน์).  เข้าถึงได้จาก:  http://www.rta.mi.th/16120u/webpage/manualE-Books.html.  (วันที่ค้นข้อมูล 20 ก.ค. 2555).





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น